แก้ปัญหาชิ้นงานยาวไม่เท่ากัน กับผลผลิตที่ไหลออกมาทางยาว

25 ธันวาคม 2556

เขียนโดย : ฝ่ายขาย สำนักงานใหญ่

สวัสดีค่ะทุกท่าน สำหรับวันนี้เราก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมบางประเภทที่บางผลผลิตไหลออกมาทางยาว เช่น ผ้า ท่อเหล็ก ท่อพลาสติก เมื่อต้องการวัดความยาวเพื่อตัดชิ้นงาน คงเคยเจอปัญหาชิ้นงานยาวไม่เท่ากันบ้าง แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกสินค้ารวมถึงวิธีการตั้งค่าเบื้องต้น ที่จะทำให้ปัญหาที่เจออยู่หมดไปค่ะ

โดยทั่วไปการวัดความยาวใช้อุปกรณ์ 2 ตัวคือ

1. Encoder

เป็นเซนเซอร์ชนิดหนึ่งส่งสัญญาณพัลส์ออกมาเป็นจำนวนพัลส์ต่อรอบ ซึ่งมีหลายขนาด ตั้งแต่ 5 พัลส์ต่อรอบจนถึง 2500พัลส์ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับความละเอียดของการใช้งาน

2. Counter

เป็นตัวรับสัญญาณจาก Encoder แล้วแสดงค่าระยะทางเป็นตัวเลข สามารถตั้งหน่วยการวัดที่ต้องการ และตั้งค่าให้เอาต์พุตทำงานเมื่อถึงค่าที่ต้องการได้

ตัวอย่าง

ในการวัดความยาวของผ้าต้องการให้ Counter แสดงผลหน่วยเป็นเมตร เส้นรอบวงเพลามีขนาด 20 ซม. ต้องการความละเอียดในการวัด 1 มม.

1. ขั้นแรกเลือก Encoder ก่อนว่าควรใช้จำนวนพัลส์ต่อรอบเท่าไหร่

เพราะฉะนั้น ต้องเลือก Encoder ที่มีความละเอียด 200P/R หรือเป็นจำนวนเท่าของ 200 เช่นเลือก Encoder ที่มีความละเอียด 1000 P/R

2. ขั้นที่สอง เลือก Counter ที่สามารถตั้งตัวคูณสเกลและตั้งทศนิยมของการแสดงผลได้

จากตัวอย่าง

-เส้นรอบวงแกนเพลา 200 มม.

-Encoder ละเอียด 1000P/R

Factor = 200 มม. = 0.2

..............1000

เพราะฉะนั้น ต้องเลือก Counter ที่ตั้งทศนิยมได้ 3 ตำแหน่ง เนื่องจากต้องการความละเอียด 1 มม. (1มม. = 0.001 ม.)

เป็นไงค่ะ การหาจำนวนพัลส์ต่อรอบ และการหาค่าตัวคูณสเกลไม่ได้ยากอย่างที่คิดใช่ไหมค่ะ จริงๆการหาค่าตัวคูณสเกลบางครั้งจะหาสูตรที่แน่นอนยาก เพราะการหาค่าจะขึ้นอยู่กับลักษณะการติดตั้งหน้างาน และตำแหน่งที่เราติดตั้ง Encoder ว่ามีความสัมพันธ์กับระยะที่วัดอย่างไร ต้องเจอหน้างานลักษณะต่างๆกันแล้วลองดูบ่อยๆ

ข้อควรระวัง : สาย Encoder เส้นที่ไม่ได้ใช้งาน ให้ตัดเส้นลวดที่โผล่ออก เพื่อกันการช็อตถึงกันทำให้ตัว Encoder เสียไปด้วย