เขียนโดย : Product Manager HEATER

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกต่อใช้งานฮีตเตอร์ให้เหมาะกับหน้างานครับในภาคอุตสาหกรรมฯ ของบ้านเรา ระบบไฟฟ้าที่นำมาใช้กันโดยส่วนใหญ่จะเป็น
- ระบบ 1 เฟส จะมี 2 สาย คือ สาย LINE และสาย Neutral แรงดันไฟฟ้า 220 – 230 V
- ระบบ 3 เฟส จะมี 4 สาย คือ สาย LINE 3 สาย และสาย Neutral 1 สาย มีแรงดันไฟฟ้าระหว่าง LINE กับ LINE 380 – 400 V และแรงดันไฟฟ้าระหว่างสาย LINE กับ Neutral 220 – 230 V ซึ่งการต่อใช้งานฮีตเตอร์ โดยทั่วไปก็จะต่อกันในลักษณะนี้

อนุกรม

แรงดัน (E) ; E = E1 + E2 …….En (ที่ความต้านทานเท่ากัน)

ขนาน

แรงดัน (E) ; E = E1 = E2 ……..En (แรงดันตกคร่อมแต่ละตัวจะเท่ากัน)

สตาร์

เดลต้า

จะเห็นว่า.. การต่อฮีตเตอร์ในลักษณะต่าง ๆ แรงดันตกคร่อมตัวฮีตเตอร์อาจไม่เท่ากัน ดังนั้นการจะต่อใช้งาน คงต้องทราบว่าผู้สั่ง / ผู้ผลิต สั่งผลิตฮีตเตอร์ที่แรงดันตกคร่อมตัวฮีตเตอร์เป็นเท่าไหร่ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความต้านทานของฮีตเตอร์ (ลวดตัวนำที่มีค่าความต้านทานสูง) และกำลังวัตต์ที่ได้

ตัวอย่างเช่น…
1. HTI – 8x600 – 220 V–1000 W จำนวน 2 ตัว นำต่อแบบอนุกรม ผลที่ได้คือ กำลังวัตต์ของฮีตเตอร์จะลดลง

เนื่องจาก HTI – 8x600 – 220 V – 1000 W มีความต้านทานอยู่ที่ 48.4 Ω ( จากสูตร R = E²/P) แต่เมื่อนำไปต่อแบบอนุกรมแรงดันตกคร่อมฮีตเตอร์แต่ละตัว จะเหลือแค่ 110 V (E = E1 + E2.....En) ทำให้กำลังวัตต์ที่ควรจะเป็น 1000 W เหลือแค่ 250 W

(จากสูตร P = E²/R ; P = 110² / 48.4 = 250 W)

2. HFI – 8x500 – 380 V – 1000 W จำนวน 3 ตัว แต่นำไปต่อแบบสตาร์ ผลที่ได้คือ กำลังวัตต์ของฮีตเตอร์จะลดลง

เนื่องจาก ฮีตเตอร์ 380V – 1000W มีความต้านทานอยู่ที่ 144.4 Ω ( จากสูตร R = E² / P) แต่นำไปต่อแบบสตาร์ ซึ่งการต่อแบบสตาร์แรงดันตกคร่อมตัวฮีตเตอร์จะอยู่ที่ 220 V
ทำให้กำลังวัตต์ที่ควรจะเป็น 1000 W เหลือแค่ 335 W

(จากสูตร P = E²/R ; P = 220² / 144.4 = 335 W)

ดังนั้นการจะต่อฮีตเตอร์ในลักษณะต่าง ๆ คงต้องคำนึงถึงแรงดันไฟฟ้าที่จะนำมาต่อร่วม ซึ่งต้องทราบตั้งแต่ต้นว่าจะใช้แรงดันเท่าไหร่ในการต่อใช้งาน เพื่อให้ได้กำลังวัตต์ตามต้องการ หากท่านใดมีข้อสงสัยในการเลือกต่อใช้งานฮีตเตอร์อยู่ สามารถติดต่อสอบถามมาที่ TIC ได้ครับ พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาฟรีครับ